คุณเป็นคนที่ต้องล้างมือ 10 ครั้งก่อนที่จะจับหน้ารึเปล่า?
วงการความงามอาจจะล้างสมองให้คุณเชื่อในสิ่งที่อาจจะเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้นะ แต่ถึงอย่างนั้น การเชื่อในข่าวที่ไม่เป็นความจริงก็อาจส่งผลแย่มากกว่าที่คิด
ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสกินแคร์ยิ่งต้องระวังแล้วใหญ่ สาวๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ไหนถึงจะดีต่อผิวของเรา แต่ถ้าเราจะบอกว่า บางเรื่องที่คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับสกินแคร์มามันไม่ใช้เรื่องจริงขึ้นมาล่ะ?
เคล็ดลับในการมีผิวเนียนใสอย่างไร้ที่ติน่ะไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้ครีมแพงๆ ที่ทุกคนต่างก็พูดไว้หรอกนะ กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน และสุขภาพของคุณต่างหากล่ะที่เป็นตัวแปรสำคัญในการมีผิวในแบบที่คุณใฝ่ฝัน
มาแหกความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามทั้ง 5 อย่างที่ใครๆ ก็น่าจะเคยเห็นกันดีกว่าว่าจะโป๊ะหรือไม่โป๊ะ:
ความเชื่อที่ 1: ยิ่งสกินแคร์มีราคาแพงก็ยิ่งดี
กระเป๋าตังค์ใครฟีบเพราะหมดไปกับการดูแลผิวให้โกลว์ใสกันบ้าง ยกมือซิ? จริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องควักเงินมากมายขนาดนั้นก็ได้! ครีมบำรุงที่มีตามดรักสโตร์ก็สามารถใช้ได้ดีเหมือนของแพงๆ ถ้ามีส่วนผสมที่เหมาะกับผิวของคุณเอง ส่วนผสมและสารบำรุงนั้นเหมาะสำหรับการใช้แก้ไขปัญหาผิวที่เฉพาะ ถ้าคุณรู้ว่าสภาพผิวและปัญหาผิวของคุณคืออะไร คุณก็สามารถซื้อสกินแคร์ราคาสบายกระเป๋าที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับผิวของคุณและใช้ได้ดีพอๆ กับสกินแคร์ราคาแพงได้แล้ว ตัวอย่างเช่น ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นส่วนผสมที่ใช้ในครีมราคาแพงที่ช่วยในเรื่องความกระจ่างใสของผิวนั้นสามารถหาได้ในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ดรักสโตร์ เช่น The Ordinary
ความเชื่อที่ 2: แค่ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดหน้าก็ล้างเครื่องสำอางได้สะอาดแล้ว
ที่ผ่านมาสาวๆ หลายคนอาจจะเชื่อว่าเราต้องล้างเครื่องสำอางด้วยแผ่นเช็ดทำความสะอาดหน้าชุ่มๆ ใช่ไหมคะ แต่แผ่นเช็ดพวกนี้อาจจะทำให้รูขุมขนของเราอุดตันและก่อให้เกิดสิวได้เพราะสารที่อยู่ในแผ่นเช็ดหน้าเหล่านั้นสามารถกักเก็บความชุ่มชื่นได้เป็นเวลานาน ส่วนทางแก้นะเหรอ? ลองหันไปใช้วิธีการล้างหน้าแบบ Double cleansing ที่สามารถล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดภายใน 2 ขั้นตอนสิคะ Double cleansing นั้นอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าเพราะคุณใช้มือที่มีความอ่อนนุ่มในการล้างเครื่องสำอาง ส่วนการล้างหน้าซ้ำอีกรอบก็เป็นการชะล้างสิ่งสกปรกที่ตกค้างในผิวของเราให้ออกไปอย่างหมดจดนั่นเองค่ะ
ความเชื่อที่ 3: มอยส์เจอไรเซอร์ไม่เหมาะสำหรับคนผิวมัน
ต้องมีใครหลายคนเคยตกเป็นเหยื่อของความเชื่อผิดๆ ข้อนี้แน่ๆ ต่อมไขมันบนผิวของเราผลิตน้ำมันออกมาเพื่อปกป้องและบำรุงผิวของเรา แต่เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้น ต่อมน้ำมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาเพื่่อให้ผิวยังคงมีความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูมันและทำให้เกิดสิวได้นั่นเอง ดังนั้น คนผิวมันจึงควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ Water-based เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินและเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว
ความเชื่อที่ 4: มาสก์แบบลอกออกเหมาะสำหรับคนที่มีสิวเสี้ยน
สิวเสี้ยนน่ะน่ารำคาญแล้วก็น่าเกลียดใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าใครก็อยากจะกำจัดสิวเสี้ยนกันทั้งนั้นแหละ แต่การใช้มาสก์แบบลอกน่ะจะทำให้ความชุ่มชื้นที่ผิวของเราผลิตตามธรรมชาติหายไป และอาจจะทำให้ผิวระคายเคืองได้ เผลอๆ อาจจะทำให้เรามีสิวเสี้ยนมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แทนที่จะใช้มาสก์แบบลอกออกที่เต็มไปด้วยสารเคมีที่แรงเกินไป เราควรหันมารักษาความสะอาดของผิวหน้าไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้างด้วยการผลัดเซลล์ผิวทุกวันเพื่อเลี่ยงการมีสิวเสี้ยนดีกว่า การผลัดเซลล์ผิวนั้นดีกว่าการใช้มาสก์แบบลอกออกแน่นอน เพราะเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวชั้นบนสุดของเราได้หายไปในขณะที่มาสก์แบบลอกออกนั้นทำร้ายชั้นผิวที่บอบบางของเรา
ความเชื่อที่ 5: การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
จริงอยู่ว่าอาหารขยะน่ะไม่ดีต่อสุขภาพของเรา แต่มันก็ไม่ใช่สาเหตุเดียวที่ทำให้เกิดสิวหรอกนะ นั่นหมายความว่า การที่เราหยุดกินหรือกินอาหารขยะน้อยลงไม่ได้แปลว่าสิวบนหน้าเราจะหายไปนั่นเอง มีปัจจัยตั้งมากมายที่ก่อให้เกิดสิวได้ เช่น สภาพร่างกาย, กรรมพันธุ์, ความเครียด, เครื่องสำอางที่ตกค้าง, มลภาวะ ฯลฯ
นี่เป็นเพียงความเชื่อเกี่ยวกับความสวยความงามที่เห็นกันบ่อยๆ ในวงการความงามกันมาหลายปีส่วนเดียวเท่านั้น อย่าเพิ่งปักใจเชื่อเทรนด์ที่หลายๆ คนพูดถึงกันจะดีกว่านะ ผิวของทุกคนมีสภาพและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่ายังไงการปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญก็ดีกว่าอยู่แล้วค่ะ